Example – Home v2

[:en]นิสสาอาทิตย์นี้ เล่าเรื่องพฤติกรรมการนอนของเธอที่รบกวนขุ่นแม่แล้วกัน ช่วงอาทิตย์ที่แล้ว อยู่ๆ ลูกก็เริ่มจะติดเต้าขึ้นมา ก่อนนอนเคยนอนเตียงโยก เดี๋ยวนี้เปลี่ยนจะหลับคาเต้าอย่างเดียวเลย คิดว่าเพราะมีหลายๆ วันช่วงเช้าที่เรานอนไม่พอ และเราก็เลยให้ลูกนอนข้างๆ ดูดเต้าหลับไป ทำให้ลูกเกิดชินขึ้นมา จริงๆ มันก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ แต่! หลังจากทำท่าจะติดเต้า ลูกกลับกลายเป็นตื่นกลางคืนบ่อยมากกก คือถ้านอนไม่สนิท จะตื่นแทบทุก 30-60 นาทีเลย คือช่วง 1 ทุ่ม – 5 ทุ่ม หลังจากนั้นนอนได้ยาวหน่อย จนมาตื่นรัวๆอีกแล้ว ช่วงตี 2 เป็นต้นไป อาการคือ จะต้องเข้าเต้า พอเข้าแล้วไม่ค่อยดูด ดูดเล่นๆแล้วนอนต่อ แม่เพลียมาก เริ่มอ่านเรื่องเทรนให้ลูกนอนอีกแล้ว จริงๆ อ่านบ่อยมาก มีความคิดและเข้าใจว่า “ถ้าการนอนของลูกเป็นปัญหาของเราเมื่อไหร่ นั้นแหละ เราจะต้องเทรน แต่ถ้ามันทนได้ ไม่มากมายอะไรก็ไม่จำเป็น แต่ละบ้านก็มีชีวิต กิจวัติที่ต่างกัน” พอรู้สึกว่าตื่นแบบนี้ไม่ไหวก็เลยคุยกับสามีเลย ว่าเราจะปล่อยให้ลูกร้องนะ โดยที่เราจะนอนและปลอบข้างๆ นี่แหละ บอกให้รู้เผื่อว่าลูกจะร้องแล้วสามีจะตื่น (แต่เขาไม่ค่อยตื่นค่ะ) […]

Mrs.Melon’s diary : ประสบการณ์เต้านมคัด ปรากฎการณ์เต้านมคัดครั้งแรก วันนั้นเป็นวันที่ 5 หลังจากคลอดลูก ช่วงแรกๆ เราค่อนข้างจะออเซาะเยาะเยะมาก ประมาณว่า ชั้นเหนื่อย ชั้นบอบบาง อยู่ๆ เที่ยงคืนและ นมทั้งสองข้างก็แข็งและก็ร้อน ตัวรุมๆ รู้สึกเหมือนจะป่วย ตอนนั้นใสไสยค่ะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับนมดิชั้นนน เข้ากูเกิลเลย และอ่านๆๆๆ ตามประสาคนชอบอ่านค่ะ อ่านไปอ่านมาสรุปโรคให้ตัวเองเรียบร้อย อิชั้นเป็นเต้านมอุดตันแน่เลย เครียด กลัวเป็นฝี เข้าสู่ระยะหวาดวิตกโอเวอร์ ในใจยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง ก็สงสัย นมยังไม่ค่อยจะมา มันเอาที่ไหนไปอุดตันฟ่ะ หลังจากนั้นลูกหลับก็มาบอกสามีเนี่ยปวดนมมา นมแข็งมาก ร้อนด้วยเป็นอารายม่ายรู้ กระซิกกระซิก สงสัยจะต้องไปโรงพยาบาลถ้าไม่หาย สามีก็ตอบกลับมาว่า สามี : ถ้ามันรุนแรงจริงๆก็ไปตอนนี้เลยสิ เรา : เอ่อ เก๊าไม่แน่ใจว่ามันรุนแรงไหม สามี : เบอร์ห้องเนิสเซอรี่อยู่ไหน ทำไมไม่โทรไปถามละเอ้อออ โทรเลย เดี๋ยวนี้ บัดนั้นก็เป็นเพลาตี1 ได้ ก็โทรเล้ยยย เล่าอากงอาการให้พยาบาลฟัง […]

Mrs.Melon’s diary : มื้อแรกของนิสสา เมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้เริ่มลองป้อนอาหารเหลวให้นิสสาค่ะ ตอนนี้่อีก 1 อาทิตย์จะครบ 6 เดือนแล้ว เป้าหมายของการป้อน คือ ให้ลองดู ว่าพร้อมหรือยัง จะยอมกลืนไหม เราเลือกป้อนกล้วยน้ำว้าสุกมาก เราไม่กลัวเรื่องติดหวานอะไรพวกนั้น เพราะนมมันก็หวานอยู่แล้ว ผักจริงๆ ก็หวาน ตอนแรกคิดว่าต้องบดผ่านตระแกรง ปรากฎว่ามันนุ่มมาก เอาช้อนขูดเนื้อออกแล้วบี้ๆ กับถ้วยก็เละแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ใช้ 2 อย่าง คือช้อนกับถ้วย ครั้งแรกที่ป้อน ป้อนตอนเช้า เขาตื่นมากินนมสัก 6 โมงเช้า พอ 7 โมงเราก็พามานั่งเก้าอี้กินข้าว เงียบๆ ไม่มีเสียงทีวีหรืออะไร เราใช้นิ้วป้อน เพราะอ่านมาว่ามันนุ่ม อุ่น เด็กน่าจะอยากให้เอาเข้าปากมากที่สุด แต่ปรากฎว่ามือกับกล้วยและปากเด็ก ไปด้วยกันไม่ได้ค่ะ มันไม่เข้าปาก มันลื่น ต่อมาเลยเอาช้อนเด็ก เทคนิคการเลือกคือ ช้อนพลาสติกเล็กๆที่มีคนให้มา 555 ไม่ใช่ค่ะ (แต่ของเรามีคนให้มาค่ะ) ถ้าจะซื้อก็เอาช้อนพลาสติกขอบมนๆ ป้อนแล้วก็ดูว่าลูกยอมเอาเข้าปากไหม ดันออกไหม […]

Mrs.Melon’s diary : นิสสาไปทะเลครั้งแรก (17-19 กรกฎาคม 2559) วันหยุดยาวทางศาสนา นิสสามาบ้านคุณทวด นั่งรถ 4 ชั่วโมง หลับเป็นส่วนใหญ่ เพราะเดินทางตอนเกือบๆทุ่มนึง มาอยู่ 2 คืน 2 วัน มาคราวนี้รู้สึกว่ามันไกล๊ไกลนะ จันทบุรีเนี่ย เหมือนพอยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งเหนื่อยง่ายขึ้น รู้สึกว่าไกลขึ้น พูดไปโน่น รถก็ไม่ได้ขับ ยังจะมากเรื่อง คริคริ อุปกรณ์ที่หอบมาด้วย เสื้อผ้ากลางวัน 4 ชุด(มีขายาวด้วยกันยุง) ชุดนอน 2 ชุด ชุดว่ายน้ำ(มีป้าซื้อให้) หมวก 2 ใบ เสื้อแขนยาว 1 ตัว แพมเพิส 14 ชิ้น กระดาษเปียก ผ้าอ้อม 3 ผืน ผ้าเช็ดตัว 1 ผืน ผ้าห่อตัว 1 ผืน […]

[:en]Mrs.Melon’s diary : นิสสาวันนี้ (8 กรกฎาคม 2559) ช่วงนี้เหมือนยุ่งๆ พิลึกยังไงไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าลูกกวนเพิ่มทีละนิดแต่ไม่รู้ตัวหรือยังไง พยายามจะทำให้เพจมีประโยชน์แต่ไม่มีบทความอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที ช่วงนี้นิสสาออกอาการรักแม่มาก จะมองหาแม่ตลอด มองตามแม่ ถ้าแม่เล่นด้วยจะอารมณ์ดี วันนี้ญาติๆก็บอกว่านิสสามองหาแต่แม่อย่างเดียว ยอมให้ทุกคนอุ้ม แต่ทำหน้าเฉยมาก นอกจากอารมณ์ดีๆ จริงๆ ถ้าอารมณ์ไม่ดี คือ ง่วง หิว นี่ร้องเลย แต่แม่จะทำให้ยิ้มได้ตลอด แม่เทพ 5555 ฮี่ๆ เปล่าหรอก น้องบอกว่า ก็ดูแม่มันทำท่าดิ ใครเห็นก็ขำป่าว ไม่ใช่แค่นิสสาหรอก 555 (ตอนนางง่วงมากๆ ถึงแม่อุ้มก็งอแงเหมือนกันนะ) อ่านมา เขาบอกว่า ช่วงแรกๆลูกเคยแสดงแต่อารมณ์เศร้า ไม่พอใจ พอใจ มีความสุข ตอนนี้ลูกแสดงอารมณ์รักได้แล้วนะคะ เขาเอาแขนมากอดคอ เขาจุ๊บเราได้ ร้องตามเวลาที่เราไม่อยู่ในห้อง ขำมุก ขำหน้าตลกของเรา และอาจจะพยายามทำให้เราขำได้ด้วย ส่วนตัวลูกไม่เคยจุ๊บ มีแต่ดูดคอ ดูดไหล่ จะคิดซะว่านั่นคือการจุ๊บละกันนะ ส่วนกอดก็ต้องกอดอยู่แล้ว […]

[:en]Mrs.Melon’s diary : นิสสาวันนี้ (1 กรกฎาคม 2559) อาทิตย์นี้งอแงน้อยลงนะคะ รอบเช้ายังนอน 30 นาทีเหมือนเดิม พอสายๆ กับบ่ายๆ มีนอนได้ยาวขึ้น อาจจะถึงชั่วโมง เพราะว่าให้นอนนอกห้องแอร์ค่ะ 55555 เหงื่อแตกหัวเปียกเลยทีเดียว แต่เขาชอบของเขา แม่ก็ไม่อยากจะขัดศรัทธา เวลาง่วงแล้วงอแง ตอนนี้แม่จะตบมือ ไม่ก็ดีดนิ้ว (เขาชอบ) เพื่อหักเหความสนใจก่อน ตามด้วยเพลงจากมือถือ เขาก็จะลืมร้องแล้วก็โยกเตียงโยก ไม่ก็ใส่รถเข็น เหมือนเดิม ถ้านอนรอบหัวค่ำก็ให้หลับคาเต้าไป เดี๋ยวนี้เวลานิสสาง่วงนอนแล้วแม่ไม่อยู่ นางจะดราม่ามากกก จนพ่อสงสัยว่าเริ่มร้องตามแล้วหรือป่าว แต่จริงๆ เคยอ่านเด็กเขาจะเริ่มร้องตามพ่อตามแม่ตอน 8 เดือนโน่น คิดว่านิสสาร้องเวลาแม่เดินออกจากห้องเพราะว่าเห็นว่ายัยมนุษย์เต้านมหายไปไหน นมของช๊านนน มากกว่า เพราะตอนนี้เด็กเขารู้แล้วว่านมมาจากไหน ใครกินขวด นมมาจากตู้เย็นเขาก็จะรู้แล้วว่าตู้เย็นคืออาหาร กลางคืนนี้ค้นพบว่าถ้าเอามานอนข้างๆ เจ๊จะนอนนานมาก แต่ไม่ย้ายมาหรอกนะ ยังให้นอนเตียงตัวเองน่ะแหละ ส่วนเรื่องพัฒนาการร่างกายของเจ๊ ก็คว่ำได้ หงายได้เองบางครั้ง คืบแบบเบี้ยวไปเบี้ยวมาได้ ชอบไปชนมุมแล้วร้องไห้เพราะออกไม่ได้ จับนั่งแบบเอามือตัวเองซัพพอร์ทได้ประมาณ 20 วินาที […]

Mrs.Melon’s diary : นิสสาวันนี้ (24 มิถุนายน 2559) ช่วงนี้ เจ๊ 4 เดือนกับประมาณ 3 อาทิตย์ กลางวันอิแม่ปวดหัวมาก ค่อนข้างจะงอแง มากน้อยสลับกันวันเว้นวัน นอนกลางวันน้อยมาก ครั้งละ 15-30 นาที วันละ 3-4 รอบ มีบ้างที่เป็นชั่วโมง แต่น้อย บางทีตื่นมาบ่ายสอง นอนอีกทีสองทุ่ม ปกติลูกนอนน้อยก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร แต่ตอนนี้มันงอแงนี่สิ อะไรก็ไม่เอา มันง่วง จะเข้าเต้ากับให้อุ้มอยู่นั่นแหละ เด็กอะไร ไม่นอนจนใต้ตาดำเป็นหมีแพนด้า อิแม่เลยเริ่มลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกให้ลูกนอน เราจะ Sleep training ก็ต่อเมื่อการนอนของลูกเป็นปัญหาของเรา เป็นปัญหากับลูก ถ้าจะเทรนแบบปล่อยร้อง (Cry It Out) ควรจะปรึกษาหมอก่อน ให้แน่ใจว่าลูกไม่ป่วย ไม่มีอะไรให้ต้องร้อง เขาบอกว่าเทรนนอนกลางวันจะยากกว่า เด็กอาจจะร้องได้เป็นชั่วโมง รอบแรกลองไป อะโห่ ร้องจะเป็นจะตาย ไม่ยอมเลย ร้องจนเลยเวลานอนไปและ ร้องแบบอาจจะโดนร้านข้างๆ […]

Mrs.Melon’s diary : ทำไมลูกชอบเอาของใส่ปาก ทำไมลูกชอบเอาของใส่ปาก เอะอะ จับอม เพราะการสำรวจด้วยปาก เป็นขั้นตอนการพัฒนาที่สำคัญ ทำให้ทารกค้นพบรสชาติและผิวสัมผัสที่แตกต่างของสิ่งของแต่ละอย่าง เป็นสัญญานว่าลูกเริ่มสนใจโลกรอบตัว เพราะในปีแรกลูกจะสำรวจสิ่งรอบตัวด้วยสัมผัสทั้ง 5 คือ มอง จับสัมผัส ฟัง ดม และชิม ยิ่งสำรวจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเรียนรู้มากเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่ลูกกำลังฝึกใช้มือเอื้อมจับนี้ เขายังไม่รู้จักใช้นิ้ว พอเขาจับของอะไรได้และต้องการที่สำรวจมัน ว่ามันอ่อนหรือแข็ง กินได้ไหม มีเสียงไหม ลูกจะใช้วิธีการเอาเข้าปาก เพราะปากช่วยให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับรูปร่างและพื้นผิวที่แตกต่าง รวมทั้งความรู้สึกดี รู้สึกอร่อย หรือไม่อร่อย และเพื่อป้องกันการสำลัก ของที่ให้ลูกเล่นควรจะใหญ่กว่าแกนกระดาษทิชชู่และไม่มีชิ้นส่วนเล็กน้อยที่สามารถหลุดออกมาได้ ส่วนเรื่องเชื้อโรค เด็กๆ ป่วยจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ไม่ได้ป่วยจากฝุ่น (แต่ก็ไม่แนะนำให้เอาของหล่นพื้นมาอมนะคะ) ดังนั้นระวังถ้าหากลูกต้องแชร์ของเล่นกับคนอื่น การเอาของใส่ปาก อาจเป็นสัญญานว่าฟันซี่แรกกำลังจะออกมา ถึงแม้ว่าเด็กส่วนใหญ่ฟันขึ้นตอนอายุ 7 เดือน แต่บางคนก็สามารถขึ้นเร็วได้ตั้งแต่ 3 เดือน โดยจะสังเกตุว่าลูกจะน้ำลายไหลเยอะมาก แล้วก็จะเอาของเข้าปากตลอด เวลาฟันขึ้น ลูกมักจะรู้สึกไม่สบายตัว การเอาของเย็นๆ มาถูที่เหงือกจะช่วยได้ ส่วนลูกดิฉัน แหกปากดูแล้ว […]

Mrs.Melon’s diary : ตื่นบ่อย กินบ่อย งอแงบ่อย Growth Spurts (ช่วงเติบโตเร็ว) ยังนอนไม่หลับ ช่วงนี้อิแม่หาสาเหตุให้ลูกไปเรื่อย ลูก 3-4 เดือน ตื่นบ่อย กินบ่อย งอแงบ่อย เจออีกแล้ว เจอคำว่า Growth Spurts (ช่วงเติบโตเร็ว) เขาบอกว่ามันเป็นปรากฎการที่เบบี๋จะเติบโตแบบพุ่งพรวด ประมาณว่าก่อนจะครบ 1 ขวบ ต้องทำน้ำหนักให้ได้สามเท่า ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 อาทิตย์ 6 อาทิตย์ 3 เดือน 6 เดือน แต่ถ้าใครไม่เป็นก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเด็กแต่ละคนก็โตไม่เหมือนกัน คนที่เป็นห่วงคือคนที่เป็นนี่แหละ เพราะมันเหนื่อย 5555 อาการ 1.อยากจะกินแบบไม่หยุดไม่หย่อน เห็นเต้าเป็นไลน์บุฟเฟ่ 24 ชั่วโมง จากที่เคยกินสองสามชั่วโมงครั้ง กลายเป็นมากินทุกชั่วโมง สองชั่วโมง ส่วนคนกินขวดก็จะเหมือนอยากกินต่อหลังจากกินหมดขวดแล้ว 2.ตื่นบ่อยช่วงกลางคืน แม้ว่าจะเคยนอนยาวกว่านี้ โดยเฉพาะหลังเที่ยงคืน ตี 2 […]

เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กมีความสุข (ทารก 0-12 เดือน) “ความสุขไม่ใช่สิ่งที่เราให้กับลูก แต่เป็นสิ่งที่เราสอนให้ลูก” “ความสุขที่ดีที่สุดคือความสุขที่มาจากข้างใน” 1. อ่านอารมณ์ของลูกให้ออก ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ลูกจะแสดงอารมณ์ชัดเจน เช่นดีใจเมื่อเจอหน้าเรา หรือร้องไห้เมื่อมีคนมาหยิบของเล่นไปจากมือ และลูกจะเปลี่ยนจากยิ้มเป็นร้องไห้ได้รวดเร็ว เพราะสมองส่วน cerebral cortex ยังไม่พัฒนาเต็มที่ เมื่อมันพัฒนาเต็มที่แล้ว ลูกก็จะควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ถ้าลูกร้องไห้มากกว่าหัวเราะ ก็แสดงว่าลูกมีปัญหาอะไรบ้างอย่าง แม่จะต้องหาให้เจอว่าลูกร้องเพราะอะไร สำหรับเด็กทารกนั้นยังไม่มีอารมณ์มีความสุขหรือไม่มีความสุขเพราะสมองเขายังไม่พัฒนาจนกว่าจะ 6-8 เดือน เพราะฉะนั้นจะมีแค่พอใจหรือไม่พอใจในสถานการณ์นั้นๆ เวลานั้นเท่านั้น 2. สนุกกับลูก ของเล่นอาจทำให้ลูกยิ้มได้ แต่สิ่งที่ทำให้ลูกมีความสุขที่สุดคือ พ่อแม่ เล่นกับลูกให้สนุก อะไรที่เราสนุก ลูกก็สนุก ทำให้เกิดความผูกพันธ์และความสุข เมื่อลูกโตขึ้นอีกหน่อย การเล่นจะทำให้ลูกค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบทำ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ลูกชอบไปตลอดชีวิต 3. ช่วยลูกในการพัฒนาทักษะให้สำเร็จชำนาญ เช่น เวลาลูกหัดจับ หัดยืน หัดใช้ช้อนกินข้าว ลูกต้องใช้ความพยายาม ลองผิดลองถูก เมื่อลูกทำสำเร็จ ลูกจะรู้สึกมีความสุขจากผลลัพธ์ของความพยายามนั้น และลูกจะรู้สึกว่าสามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้ ลูกจะรู้ว่าถ้าพยายาม เขาจะทำได้ […]